แนะนำ 10 อันดับ มอยส์เจอไรเซอร์ ที่ช่วยบำรุงให้ผิวหน้าสวยนุ่มชุ่มชื้น

Last updated: 16 ส.ค. 2567  |  2528 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ บำรุงผิว

      มอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีคือลดการสูญเสียน้ำของผิวหนังที่สามารถเก็บกักน้ำให้ผิวคงความชุ่มชื้นของเนื้อสัมผัส  มอยส์เจอไรเซอร์ส่วนใหญ่จะเป็นครีม โลชั่น ขี้ผึ้ง หรือ บาล์ม ที่ช่วยกักเก็บ ความชุ่มชื้นของผิวไม่ให้สูญเสียน้ำในชั้นผิวไป ทำให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นสดใส

มอยส์เจอไรเซอร์ควรใช้ในขั้นตอนไหน ?
      มอยส์เจอไรเซอร์ ควรใช้ในขั้นตอนหลังจากทำความสะอาดผิวหน้าจนเกลี้ยงแล้วลงนำ้ตบหรือเอสเซ้นต์ ตามด้วยเซรั่มแล้วใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเก็บสารบำรุงต่างไว้และช่วยคงความชุ่มฃื้นให้ผิวหนัง
 มอยส์เจอไรเซอร์มีประโยชน์อย่างไร?

  1.  ป้องกันความแห้งของสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด จากความร้อนในอาคารหรือความเย็นจากอากาศที่สามารถดูดความชื้นจากผิวได้ มอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีสามารถทดแทนและป้องกันความชุ่มชื้นที่จะสูญเสียไปได้
  2. ให้ผิวดูอ่อนเยาว์เพราะคุณสมบัติของมอยเจอไรเซอร์ สามารถกักเก็บน้ำและความชื้นในผิวไว้  ทำให้ผิวมี เต่งตรึง ไม่เกิดรอยเหี่ยวย่นหรือปัญหาผิวต่างๆ
  3. ป้องกันการเกิดสิวเมื่อ ผิวของคุณแห้งมันจะส่งสัญญาณไปยังต่อมใต้ผิวเพื่อผลิตน้ำมันขึ้นทดแทนหากผลิตมากเกินไปจะมีการอุดตันทำให้เกิดสิว แต่ถ้าคุณใช้มอยเจอไรเซอร์เป็นประจำผิวของคุณจะมีความชุ่มชื้นผิวจะไม่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปทำให้เกิดสิว
  4. ช่วยปลอบประโลมผิว หากคุณมีผิวแพ้ง่าย มีผื่นแดง ระคายเคือง แห้งและคันหรือไม่? หากคุณมีปัญหาเหล่านี้ ควรต้องรีบดูแล ทางที่ดีควรใช้มอยเจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมช่วยผ่อนคลาย เช่น ว่านหางจระเข้ ดอกคาโมมาย ข้าวโอ๊ด และน้ำผึ้ง เป็นต้น

 มอยส์เจอไรเซอร์มีกี่ประเภท?
โดยหลักๆแล้วแบ่งมอยส์เจอไรเซอร์ด้วย3ประเภทคือ

1.มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทกักเก็บความชุ่มชื้น (Occlusives)
มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทนี้จะทำงานโดยสร้างชั้นฟิล์มบางๆ บนผิวหนัง เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก หรืออาศัยอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น ตัวอย่างของ Occlusives ได้แก่ Petrolatum, Lanolin, Dimethicone
(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูว่ามีแบบไหนบ้าง)
2.มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทดูดซับความชุ่มชื้น (Humectants)
มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทนี้จะดึงดูดความชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หรืออาศัยอยู่ในสภาพอากาศแห้งแล้ง ตัวอย่างของ Humectants ได้แก่ Glycerin, Hyaluronic Acid, Aloe Vera
(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูว่ามีแบบไหนบ้าง)
3.มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทน้ำมัน (Oil-based)
มอยส์เจอไรเซอร์ประเภทนี้จะเติมน้ำมันธรรมชาติให้กับผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก หรือผิวแพ้ง่าย ตัวอย่างของ Oil-based moisturizers ได้แก่ Jojoba Oil, Coconut Oil, Olive Oil
(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูว่ามีแบบไหนบ้าง)

นอกจากนี้ มอยส์เจอไรเซอร์ยังสามารถแบ่งออกได้ตามรูปแบบเนื้อสัมผัส ดังนี้

โลชั่น: เนื้อบางเบา ซึมง่าย เหมาะสำหรับผิวมันหรือผิวผสม(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูโลชั่นมีแบบไหนบ้าง)
ครีม: เนื้อเข้มข้น เหมาะสำหรับผิวแห้ง(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูครีมมีแบบไหนบ้าง)
เจล: เนื้อบางเบา ซึมง่าย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูเจลมีแบบไหนบ้าง)
เซรั่ม: เนื้อเข้มข้น อุดมไปด้วยสารบำรุง เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูเซรั่มมีแบบไหนบ้าง)
 รีวิว มอยส์เจอไรเซอร์ 5 แบรนด์ดัง ที่สาวๆ ต้องลอง!
สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้เราจะมาเปิดกรุ มอยส์เจอไรเซอร์ 5 แบรนด์ดัง ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี ว่าแต่ตัวไหนจะถูกใจคุณที่สุด ไปดูรีวิวกันเลยค่ะ!
ข้อควรจำ: ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัจจัยอื่นๆ ควรทดลองใช้กับผิวเล็กน้อยก่อนใช้ทั่วใบหน้า
1. CeraVe Moisturizing Cream
จุดเด่น: เนื้อครีมเข้มข้น เหมาะกับผิวแห้งมากถึงผิวแห้งสุดๆ อุดมไปด้วยเซราไมด์ 3 ชนิด ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ปราศจากน้ำหอมและสี
รีวิว: ตัวนี้เหมาะกับคนที่ผิวแห้งมากจริงๆ ค่ะ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีมาก เนื้อครีมอาจจะหนาไปนิดสำหรับผิวมัน แต่ถ้าทาตอนกลางคืนคือดีมาก ตื่นเช้ามาผิวเนียนนุ่ม
2. Hada Labo Gokujyun Hyaluronic Acid Moisturizing Lotion
จุดเด่น: เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมเร็ว เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวมัน มีไฮยาลูรอนิค แอซิด 3 ชนิด ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
รีวิว: ตัวนี้เป็นโลชั่นที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี เนื้อบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับใช้เป็นประจำทุกวัน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ
3. La Roche-Posay Cicaplast Baume B5
จุดเด่น: เนื้อครีมเข้มข้น บำรุงผิวที่แห้งกร้าน ช่วยลดรอยแดงและระคายเคือง เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
รีวิว: ตัวนี้เป็นครีมบำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีมาก เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักผิว ช่วยลดรอยแดงจากสิวได้ด้วย
4. Eucerin Aquaphor Healing Ointment
จุดเด่น: เนื้อครีมเข้มข้นมาก เหมาะสำหรับผิวแห้งมากและผิวที่มีปัญหา เช่น ผิวหนังอักเสบ ผิวแตก
รีวิว: ตัวนี้เหมาะกับคนที่ผิวแห้งมาก หรือมีผิวหนังอักเสบ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีเยี่ยม แต่เนื้อครีมอาจจะหนาไปสำหรับใช้เป็นประจำทุกวัน
5. Innisfree Green Tea Seed Serum
จุดเด่น: เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมเร็ว อุดมไปด้วยสารสกัดจากชาเขียว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและอ่อนเยาว์
รีวิว: ตัวนี้เป็นเซรั่มที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใสขึ้น เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับทุกสภาพผิว
สรุป: การเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคน ลองพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น เนื้อสัมผัส, ส่วนผสม และปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
คำแนะนำเพิ่มเติม:
ผิวแห้ง: เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเนื้อครีมเข้มข้น อุดมไปด้วยเซราไมด์ หรือไขมันธรรมชาติ
ผิวมัน: เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเนื้อโลชั่นบางเบา ไม่ก่อให้เกิดสิว
ผิวแพ้ง่าย: เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอม สารกันเสีย และผ่านการทดสอบทางผิวหนัง
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อมอยส์เจอไรเซอร์นะคะ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ และคอมเมนต์บอกกันด้วยว่าคุณชอบมอยส์เจอไรเซอร์ตัวไหนมากที่สุดค่ะ!

#รีวิวบิวตี้ #มอยส์เจอไรเซอร์ #ผิวสวย #สกินแคร์
การเลือกซื้อมอยส์เจอไรเซอร์อย่างไรดี?
  1. เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น  คนผิวมันควรใช้แบบ oil free มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อไม่ให้หน้ามันยิ่งขึ้น  คนผิวแห้งควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ที่สามารถกักเก็บน้ำรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวได้ 
  2. เลือกที่เนื้อสัมผัสของครีม
    ถ้าคุณมีผิวธรรมดา  ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เนื้อบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ 
    ถ้าคุณมีผิวแห้ง ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความข้น เช่น  ครีม หรือ สูตรน้ำมัน ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิว
  3. พิจารณาจากกลิ่นที่ผสมในมอยเจอไรเซอร์ เพราะจะมีสารแต่งกลิ่นหรือน้ำหอมลงไปในมอยเจอไรเซอร์ซึ่งบางคนอาจมีอาการแฟ้สารแต่งกลิ่นหรือน้ำหอมได้
  4. ดูส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับคุณ
    -มีส่วนผสม ไฮยาลูโรนิก และ ไดเมทิโคน ที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิว
    -มีส่วนผสม กลีเซอลีน ยูเรีย โปรตีน และ โพรพิลีนไกลคอล สารที่ช่วยดึงดูดน้ำเข้าสู่ผิว
    -มีส่วนผสม น้ำมันมิเนรัล ลาโนลิน และ น้ำมันปิโตเลี่ยมที่ช่วยกักเก็บความชื้น
    - รักษาผิวแห้งด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติไม่อุดตันรูขุมขน เช่น น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ อาโวคาโด
    น้ำมันมะพร้าว

หลักการเลือกซื้อ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่ใช้เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของร่างกายมาลองดูตัวอย่างมอยส์เจอไรเซอร์ยอดฮิต

เพื่อคายความสงสัยว่ามอยส์เจอไรเซอร์ควรใช้ในขั้นตอนไหนของการเตรียมผิวหน้าดูด้านล่างได้เลย
 สรุปขั้นตอนในการเตรียมผิวหน้า
   การเตรียมผิวหน้านั้นมีส่วนสำคัญ ที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะจะทำให้ผิวหน้าสะอาดเรียบ เนียน ไร้สิ่งสกปรก ตกค้าง ทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น มารู้จักขั้นตอนการเตรียมผิวหน้ากัน
1. เคล็ดลับสำคัญคือ ควรล้างทำความสะอาดผิวหน้าก่อนเสมอ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ ตามรูขุมขน
คุณสามารถเข้าไปดู รายละเอียดผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตามลิงค์ด้านล่าง
แนะนำ 10 อันดับ ผลิตภัณฑ์ ล้างหน้า ให้ผิว สะอาดสดใสผิวหน้า เรียบเนียน
2.ล้างผิวให้สะอาดยิ่งขึ้นด้วยโทนเนอร์  เพื่อผิวหน้าพร้อมรับการบำรุงได้อย่างลึกซึ้ง
มารู้จักโทนเนอร์ว่ามีคุณสมบัติ แบบไหนใช้งานยังไงและมีแบบไหนบ้าง เพื่อให้เหมาะกับผิวของคุณ
คำแนะนำ 10 อันดับแรก โทนเนอร์ที่ช่วยทำความสะอาดและบำรุงได้แบบอย่าง
3. ควรทำทรีตเมนต์ก่อนเพื่อที่สารต่างๆ จะได้แทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิว เราสามารถเลือกบำรุงผิวด้วยอะไรได้บ้าง
1. เอสเซ้นต์หรือน้ำต บผลิตภัณฑ์ที่บำรุงผิวหน้าการบำรุงที่ลึกเข้าถึงชั้นผิวเพื่อการฟื้นฟูและดูแลผิว
ที่แนะนำ 10 อันดับเอสเซนท์หรือน้ำตบที่ช่วยบำรุงลึกเข้าถึงชั้นผิว
2.ลงเซรั่มบำรุงผิวเพื่อให้ สุขภาพดีมีไว้เผื่อสำหรับผู้ที่ต้องการมีปัญหาก็ให้ลงสกินแคร์บำรุงผิวก่อนคำ
ที่มอบให้กับผิวหน้าให้เคยสวยใส
ไรเซอร์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น วิตามินบีรวมผิวประเภทต่างๆก็จะได้รับคำ
แนะนำมา 10 อันดับ มอยส์เจอไรเซอร์ที่มอบให้ผิวหน้าสวยนุ่มชุ่มชื้นเจอ
4.ควรทาครีมกันแดดที่ช่วยให้ผิวจาก แสงยูวี  
มาสก์ครีมกันแดดมีประโยขน์อย่างไรบ้างมีประเภทใดบ้างสำหรับคำ
แนะนำ 10 อันดับครีมกันแดดที่มีคุณภาพที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดในชีวิตประจำวัน
ทำความสะอาดผิวหน้าและลงครีมบำรุงต่างๆเพื่อเตรียมผิวหน้าให้คุณพร้อมแต่งหน้ามาดู

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้