Last updated: 12 พ.ย. 2566 | 22 จำนวนผู้เข้าชม |
โรคสมองเสื่อม (Dementia) คือภาวะที่สมองเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความสามารถในการคิด ความจำ และการใช้ภาษาถดถอยลง โดยทั่วไปแล้ว โรคสมองเสื่อมจะเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ใหญ่ตอนต้นและวัยกลางคน โรคสมองเสื่อมไม่ใช่โรคเดียว แต่เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติของสมองหลายอย่าง โดยสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคสมองเสื่อมคือ โรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะสมองเสื่อมอื่นๆ
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยปกติแล้วโรคสมองเสื่อมจะพบมากในผู้สูงอายุ เนื่องจากเซลล์สมองเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา
- พันธุกรรม หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคสมองเสื่อม ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้มากขึ้น
- โรคหรือภาวะบางอย่าง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และภาวะสมองเสื่อมจากการดื่มแอลกอฮอล์
- การบาดเจ็บที่สมอง เช่น การถูกกระทบกระแทกที่ศีรษะอย่างรุนแรง
- การติดเชื้อในสมอง เช่น โรคซิฟิลิส โรคเอดส์ และโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- สารพิษบางชนิด เช่น สารตะกั่วและสารปรอท
อาการของโรคสมองเสื่อม
อาการของโรคสมองเสื่อมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- ความจำเสื่อม โดยเฉพาะความจำระยะสั้น
- สับสน โดยเฉพาะในเรื่องเวลา สถานที่ และบุคคล
- ขาดสมาธิและสมาธิสั้น
- แก้ปัญหาและตัดสินใจได้ยาก
- พูดและเขียนได้ยาก
- หลงทางในสถานที่ที่คุ้นเคย
- เปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพและอารมณ์
- สูญเสียความยับยั้งชั่งใจ
- มีปัญหาในการทำงานและกิจวัตรประจำวัน
การรักษาโรคสมองเสื่อม
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคสมองเสื่อมให้หายขาด แต่มีวิธีการรักษาที่สามารถช่วยชะลอการดำเนินของโรคและบรรเทาอาการได้ โดยวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค วิธีการรักษาที่ใช้บ่อย ได้แก่
- ยาต้านโรคอัลไซเมอร์ เช่น Donepezil, Galantamine, Memantine และ Rivastigmine
- ยาลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล
- การออกกำลังกายและการควบคุมน้ำหนัก
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง เช่น ผัก ผลไม้ และปลา
- การฝึกสมอง เช่น การเล่นเกมฝึกสมอง การอ่านหนังสือ และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม
- การดูแลสุขภาพจิต
การป้องกันโรคสมองเสื่อม
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันโรคสมองเสื่อมได้อย่างแน่นอน แต่มีวิธีการที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้โดยวิธีการป้องกันที่ใช้บ่อย ได้แก่
- การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- การควบคุมน้ำหนัก
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง
- การฝึกสมอง
- การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม
- การดูแลสุขภาพจิต
- การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการของโรคสมองเสื่อม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว เพื่อชะลอการดำเนินของโรคและบรรเทาอาการ
อาหารบำรุงสมองมีความจำเป็นอย่างไร?
อาหารบำรุงสมองมีความจำเป็นต่อการรักษาสุขภาพสมองและป้องกันการเกิดโรคสมองเสื่อม โดยอาหารเหล่านี้จะช่วยบำรุงเซลล์สมองและเสริมสร้างการทำงานของสมองให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคความจำเสื่อม และโรคสมองเสื่อมอื่นๆ ได้อีกด้วย
อาหารบำรุงสมองมีกี่ประเภท?
อาหารบำรุงสมองสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. อาหารที่ช่วยบำรุงสมองโดยตรง ได้แก่ อาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของสมอง เช่น โอเมก้า 3 วิตามินบี12 วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ผักใบเขียว และธัญพืชไม่ขัดสี
2. อาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อม ได้แก่ อาหารที่มีสารต้านการอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสี
วิธีเลือกซื้ออาหารบำรุงสมองที่ดี?
ในการเลือกซื้ออาหารบำรุงสมอง ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- เลือกอาหารที่สด สะอาด และมีคุณภาพดี
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง น้ำตาลสูง และโซเดียมสูง
- เลือกอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของสมอง เช่น โอเมก้า 3 วิตามินบี12 วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
- เลือกอาหารที่มีรสชาติที่คุณชอบ เพื่อให้คุณสามารถรับประทานได้อย่างสม่ำเสมอ
กินอาหารบำรุงสมองตัวไหนดี?
อาหารบำรุงสมองที่ดีมีหลากหลายชนิด โดยอาหารที่นิยมรับประทานกัน ได้แก่
- ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน และปลาแอนโชวี่ ซึ่งอุดมไปด้วยโอเมก้า 3
- ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม และบรอกโคลี ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเค วิตามินซี และโฟเลต
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น บลูเบอร์รี สตรอเบอร์รี และราสเบอร์รี ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- ถั่วและธัญพืชไม่ขัดสี เช่น อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดเจีย และข้าวกล้อง ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินอี แมกนีเซียม และสังกะสี
- น้ำมันมะกอก ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและสารต้านอนุมูลอิสระ
- ชาเขียว ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและคาเฟอีน
- ขมิ้นชัน ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านการอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระ
- โกโก้ ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและฟลาโวนอยด์
**กินอาหารเสริมบำรุงสมองตัวไหนดี?**
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกายของเรา ทำหน้าที่ควบคุมทุกอย่างตั้งแต่การเต้นของหัวใจไปจนถึงความคิดของเรา เมื่อเราอายุมากขึ้น สมองของเราจะเริ่มเสื่อมสภาพลง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น ความจำเสื่อม สมาธิสั้น และภาวะสมองเสื่อม
โชคดีที่มีอาหารเสริมบำรุงสมองมากมายที่สามารถช่วยชะลอหรือป้องกันการเสื่อมสภาพของสมองได้ อาหารเสริมเหล่านี้มีส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง
ในบทความนี้ เราจะมาดูอาหารเสริมบำรุงสมองที่ดีที่สุด 10 ชนิด โดยจะพิจารณาจากประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และราคา
26 ต.ค. 2566